อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ ที่อาจจะกำลังกลายเป็นเพียงอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ไร้ความสามารถได้

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ ที่อาจจะกำลังกลายเป็นเพียงอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่ไร้ความสามารถได้

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ ความต้องการอุปกรณ์ของบ้านอัจฉริยะถูกคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามผู้บริโภคก็ควรจะต้องไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจซื้ออุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ เนื่องจากผู้ผลิตมีแนวโน้มที่จะเลิกผลิตบางรายการ อย่างเช่น Google ที่ได้ยกเลิกระบบเตือนภัยความปลอดภัยภายในบ้านของ Google Nest Secure โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ

อุปกรณ์บ้านอัจฉริยะ ที่คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกในอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะจะยังคงเติบโตได้ประมาณ 15% ต่อปี

ถึงแม้ว่า Google จะบอกว่าอุปกรณ์จะยังคงใช้งานได้สำหรับลูกค้าที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ส่วนบริษัท Wink Labs ผู้ผลิตอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะก็ได้ประกาศยุติการเข้าถึงแพลตฟอร์มฟรีเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยแจ้งว่าจะเริ่มเรียกเก็บค่าบริการรายเดือนแทน ซึ่งบริษัทได้กล่าวเพิ่มเติมว่าบางครั้งผู้ใช้อุปกรณ์ก็จำเป็นจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการสมัครสมาชิกเพื่อชดเชยต้นทุนของบริษัทนั่นเอง

Wemo

ทั้งนี้บริษัท Belkin ได้ประกาศเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่าจะหยุดสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของ Wemo และ NetCam ที่เปิดใช้งานระบบคลาวด์ ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ของทั้ง Wemo และ NetCam กลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ นั่นจึงทำให้ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างนั้นไม่พอใจ ส่งผลให้ Belkin ได้ยืดการใช้งานบนระบบคลาวด์ไปถึงวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีของบ้านอัจฉริยะได้ให้ความเห็นว่า การเปลี่ยนอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะที่เลิกใช้แล้วไม่ใช่เรื่องยกหรือมีราคาแพงแต่อย่างใด เพียงแค่ผู้ใช้งานดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ให้กับระบบ WiFi ภายในบ้านก็สามารถทำให้ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านสามารถกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม

Internet of Things

ทั้งนี้ปัญหาอย่างหนึ่งที่ผู้ผลิตอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ กำลังเผชิญอยู่ คือ มาตรฐานของอุปกรณ์การสื่อสารที่แตกต่างกันมากมายในปัจจุบัน ดังนั้นการกำหนดมาตรฐานให้อุปกรณ์ต่าง ๆ มีโปรโตคอลในการสื่อสารร่วมกันที่กำลังจะนำออกมาใช้งานร่วมกันได้ในอนาคต ซึ่งแนวทางที่เป็นมาตรฐานนี้จะช่วยให้ระบบ Internet of Things เกิดขึ้นได้จริงกับอุปกรณ์ของบ้านอัจฉริยะ

นอกจากนี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอันเนื่องมากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและผู้ผลิตอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั่วโลก ก็อาจจะทำให้การผู้ผลิตบางรายต้องลดต้นทุนในส่วนต่าง ๆ ให้มากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อได้ในภาวะปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ทางการตลาดด้านเทคโนโลยีก็คาดการณ์ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วโลกในอุปกรณ์บ้านอัจฉริยะจะยังคงเติบโตได้ประมาณ 15% ต่อปี และจะมียอดขายประมาณ 88,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 27 ล้านล้านบาทภายในปี 2025

ข่าวเทคโนโลยี เรานำมารวบรวมและเสริฟให้เพื่อน ๆ ได้รับรู้ถึงที่ และ Review 2 แอพพลิเคชั่นสร้างความขยัน ด้วยเทคโนโลยีบอกเลยว่าไม่ควรพลาด