บริษัท Apple ถึงแม้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาจะรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดได้ดีมากแล้วในตอนนี้ ในหลายๆ พื้นที่ก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตดังเดิมแต่ว่าก็ยังมีคนอีกจำนวนมากเลยทีเดียวพี่ไม่ยอมรับการฉีดวัคซีนซึ่งก็ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อและมีการเสียชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโรคโควิดเริ่มต้นขึ้นหลายๆ บริษัทก็ให้พนักงานของบริษัทนั้นเริ่มต้นที่จะทำงานที่บ้าน โดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างApple ก็เป็นบริษัทที่ให้พนักงานทำงานที่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด
บริษัทยักษ์ใหญ่จาก Apple ไม่สามารถเปิดตัวในรูปแบบออฟไลน์ได้
แม้ทาง Appleก็มีกำหนดการที่จะให้พนักงานกลับมาทำงาน ข่าวไอที ในบริษัทในช่วงปลายปีนี้ในช่วงเดือนกันยายน แต่ดูจากการแพร่ระบาดในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ทำให้ทางบริษัท Apple จำเป็นต้องเลื่อนพนักงานนั้นกลับมาทำงานในบริษัทในช่วงเดือนตุลาคมแทน ซึ่งก็ส่งผลถึงผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนนี้ด้วย
ด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิดทำให้ iPhone 13 ที่เป็น iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดของบริษัท Apple ที่จะถูกเปิดตัวในช่วงเดือนกันยายนนี้ไม่สามารถเปิดตัวในรูปแบบออฟไลน์ได้ ทำให้การเปิดตัว iPhone 13 ต้องจัดขึ้นเป็นรูปแบบ Virtual อีกครั้งเหมือนกับการเปิดตัว iPhone 12 และคาดว่าจะเปิดตัวในเวลาที่กำหนดไว้แม่อาจจะไม่มีการเลื่อนการเปิดตัวเหมือนกับ iPhone 12 ที่มีการเลื่อนการเปิดตัวจากเดือนกันยายนมาเป็นเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนในปีที่แล้ว
นอกจากบริษัท Appleที่ได้รับผลกระทบแล้วจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดแล้ว บริษัท Appleยังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาการขาดแคลนของชิปประมวลผลที่ในช่วงนี้มีไม่พอกับความต้องการ ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิตผลิตภัณฑ์ของ Appleในอนาคต
การแพร่ระบาดของโรคโควิดไม่เพียงแค่ทำร้ายบริษัทเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วโลกแต่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Appleก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในครั้งนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการแพร่ระบาดนั้นจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมได้เห็นงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของApple ที่เป็นงานออฟไลน์อีกครั้ง จะเป็นปลายปีนี้หรือว่าปีหน้าก็ยังไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้